วันเสาร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2553

บทที่ 1 วัฒนธรรมองค์กร

วัฒนธรรมองค์กร
• ทัศนคติ
- มีความรู้สึกเป็นเจ้าของ
- มุ่งเน้นผลประโยชน์ทางธุรกิจเป็นหลัก
- มุ่งเน้นลูกค้า
- ต้องการให้ ปตท. เป็น Innovative Organization
- มีจิตสำนึกในการทำงานเป็นทีม โดยมีเป้าหมายร่วมกันที่ชัดเจน
• วิธีคิด
- คิดเชิงวิเคราะห์อย่างเป็นระบบเชิงยุทธศาสตร์ และตรงประเด็น
• พฤติกรรมในการทำงาน
- มีกรอบและแผนการทำงานที่ชัดเจน
- วิธีการทำงานต้องปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์
- ทำงานเป็นทีม
- บันทึก เก็บข้อมูล เพื่อวิเคราะห์ และสร้างเป็นองค์ความรู้
- มีระบบการถ่ายทอดวิธีการทำงานอย่างเป็นระบบ
- บริหารเวลาเป็น



คณะกรรมการปตท.มีเจตนารมณ์ที่จะส่งเสริมให้ปตท.เป็นองค์กรที่มีประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจการกำกับดูแลกิจการและการบริหารจัดการที่ดีเลิศโดยมุ่งเน้นการสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก ่ผู้ถือหุ้นและคำนึงถึงผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียโดยรวมมีคุณธรรมในการดำเนินธุรกิจมีความโปร่งใสและตรวจสอบได้จึงได้กำหนดเป็นนโยบายด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดีเพื่อให้คณะกรรมการ ปตท. ผู้บริหาร และพนักงานยึดถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน ดังนี้
1. คณะกรรมการปตท.ผู้บริหารและพนักงานทุกคนมุ่งมั่นที่จะนำเอาหลักสำคัญในการกำกับดูแลกิจการที่ดีของปตท.ทั้ง6ประการคือAccountability,Responsibility,EquitableTreatment,Transparency,Vision to CreateLong Term Value และ Ethics มาใช้ในการดำเนินงานมีโครงสร้างการ บริหารที่มีความสัมพันธ์กันระหว่างคณะกรรมการ ปตท. ผู้บริหาร และผู้ถือหุ้นอย่างเป็นธรรม
2. คณะกรรมการปตท.จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเทและรับผิดชอบมีความเป็นอิสระและมีการจัดแบ่งบทบาทหน้าที่ ระหว่างประธานกรรมการและกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ออกจากกันอย่างชัดเจน
3. คณะกรรมการปตท.มีบทบาทสำคัญในการกำหนดวิสัยทัศน์กลยุทธ์นโยบายและแผนงานที่สำคัญของปตท.โดยจะต้องพิจารณาถึงปัจจัยเสี่ยงและวางแนวทางการบริหารจัดการที่มีความเหมาะสมรวมทั้งต้องดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าระบบบัญชี รายงานทางการเงินและการสอบบัญชี มีความน่าเชื่อถือ
4. คณะกรรมการปตท.จะต้องเป็นผู้นำในเรื่องจริยธรรมเป็นตัวอย่างในการปฏิบัติงานตามแนวทางการกำกับดูแลกิจการที่ดีของปตท.และสอดส่องดูแลในเรื่อง การจัดการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ทางผลประโยชน์ และรายการที่เกี่ยวโยงกัน
5. คณะกรรมการ ปตท.อาจแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะเรื่องขึ้นตามความเหมาะสม เพื่อช่วยพิจารณากลั่นกรองงานที่มีความสำคัญอย่างรอบคอบ
6. คณะกรรมการ ปตท. ต้องจัดให้มีการประเมินผลตนเองรายปี เพื่อใช้เป็นกรอบในการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการฯ
7. คณะกรรมการปตท.เป็นผู้พิจารณากำหนดจรรยาบรรณของปตท.เพื่อให้คณะกรรมการฯผู้บริหารพนักงานรวมถึงลูกจ้างทุกคนใช้เป็นแนวทางใน การประพฤติปฏิบัติควบคู่ไปกับข้อบังคับและระเบียบของ ปตท.
8. มีการเปิดเผยสารสนเทศของ ปตท.ทั้งในเรื่องทางการเงินและที่ไม่ใช่เรื่องทางการเงินอย่างเพียงพอ เชื่อถือได้และทันเวลา เพื่อให้ผู้ถือหุ้นและ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของ ปตท. ได้รับสารสนเทศอย่างเท่าเทียมกัน มีหน่วยงาน
ประชาสัมพันธ์ และหน่วยงานนักลงทุนสัมพันธ์ รับผิดชอบในเรื่องการ ให้ข้อมูลกับนักลงทุนและประชาชนทั่วไป
9. ผู้ถือหุ้น ปตท.จะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน มีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลสารสนเทศ และมีช่องทางในการสื่อสารกับ ปตท.ที่เหมาะสม
10. มีระบบการคัดสรรบุคลากรที่จะเข้ามารับผิดชอบในตำแหน่งบริหารที่สำคัญทุกระดับอย่างเหมาะสม และมีกระบวนการสรรหาที่โปร่งใส เป็นธรรม
หลักการและเหตุผล
ด้วยเจตนารมณ์ที่จะเป็นองค์กรชั้นนำ ที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีคุณธรรม โปร่งใส และตรวจสอบได้ ปตท.จึงจัดทำหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีขึ้นเพื่อเป็นรูปแบบของการดำเนินธุรกิจของคณะกรรมการผู้บริหารและพนักงานโดย
ให้ยึดถือหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีในการดำเนินธุรกิจและให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศที่เข้าไปลงทุนตลอดจนการปฏิบัติที่สอดคล้องกับขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่นนั้นๆ
ความสำคัญของการกำกับดูแลกิจการที่ดี
1.2.1. เสริมสร้างระบบบริหารจัดการที่ดี ที่โปร่งใส และมีมาตรฐานชัดเจน เป็นสากล ซึ่งจะช่วยให้ ปตท.มีศักยภาพในการแข่งขัน ป้องกันและขจัดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น
1.2.2. สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุนทั้งภายในและภายนอกประเทศ และมีส่วนในการเพิ่มมูลค่าหุ้น ปตท.
1.2.3. เป็นเครื่องมือการวัดผลการดำเนินงานของ ปตท. และตรวจสอบการทำงานต่างๆ เพื่อการปรับปรุง แก้ไขการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
1.2.4. สร้างกรอบความรับผิดชอบของคณะกรรมการปตท.และผู้บริหารต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายรวมทั้งเป็นการสร้างพันธะผูกพันเพื่อให้ฝ่ายบริหารใช้อำนาจภายในขอบเขตที่กำหนด

หลักปฏิบัติเกี่ยวกับคู่มือการกำกับดูแลกิจการที่ดีของ ปตท.
1.3.1. หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี รวมถึงจรรยาบรรณและแนวปฏิบัติที่ดีต่างๆ ถือเป็นวินัยอย่างหนึ่ง ซึ่งบุคลากรทุกระดับต้องทำความเข้าใจ ยึดมั่น และปฏิบัติให้ถูกต้อง
1.3.2. หากพบว่ามีการละเมิดต่อหลักการนี้ และผลการสอบสวนอย่างเป็นธรรม ปรากฏว่าเป็นจริง ปตท.จะมีการพิจารณาลงโทษทางวินัย และ/หรือทางกฎหมายตามความเหมาะสม
1.3.3. ปตท. คาดหมายให้บุคลากรทุกคน รายงานโดยสุจริตถึงการปฏิบัติที่ขัด หรือสงสัยว่าจะขัดต่อหลักการต่างๆ ต่อผู้บังคับบัญชา หรืออาจขอคำปรึกษาจากสำนักกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักตรวจสอบภายใน หรือฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล โดย ปตท. จะถือเป็นข้อมูลความลับ ทั้งนี้ ให้ถือเป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาในการสอดส่องดูแลและให้คำแนะนำ ผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อให้ปฏิบัติงานตามหลักการและจรรยาบรรณที่ได้กำหนดไว้
1.3.4. หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีของปตท.ควรได้รับการปรับปรุงให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นทุกปีในกรณีที่มีข้อสงสัยในการปฏิบัติตามหลักปฏิบัติที่ดีหรือจรรยาบรรณใดๆในคู่มือฉบับนี้ พนักงานสามารถใช้ดุลยพินิจของตนเองในเบื้องต้น โดยการสอบถามตัวเองก่อนว่าสิ่งที่จะทำนั้น
: เป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่
: เป็นที่ยอมรับและสามารถเปิดเผยต่อสังคมหรือไม่
: เป็นการทำให้เกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียงของ ปตท.หรือไม่ หรือสอบถามโดยตรงไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบในเรื่องนั้นๆ หรือที่สำนักกรรมการผู้จัดกา
2 แนวปฏิบัติที่ดีของผู้บริหารและพนักงาน ปตท.
ปตท.เป็นบริษัทด้านพลังงานของชาติซึ่งดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติรวมทั้งธุรกิจที่ต่อเนื่องอย่างครบวงจร เพื่อประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น และเศรษฐกิจของประเทศจึงจำเป็นต้องธำรงไว้ซึ่งความเป็นมืออาชีพความคล่องตัว และความเป็นอิสระดังนั้นเพื่อให้ปตท. มีคุณลักษณะดังกล่าวอย่างมั่น คงสืบต่อไปจึงกำหนดแนวปฏิบัติที่ดีของผู้บริหารและ ของพนักงานซึ่งถือเป็นจรรยาบรรณในการปฏิบัติหน้าที่ ดังต่อไปนี้
2.1. ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์สุจริต มุ่งมั่น ทุ่มเท ปฏิบัติตามกฎระเบียบ และนโยบายของ ปตท. และวัฒนธรรมองค์กรโดยถือประโยชน์ของ ปตท. เป็นสำคัญ
2.2. รักษาความลับของลูกค้า คู่ค้า และ ปตท. อย่างเคร่งครัด โดยดูแลและระมัดระวังมิให้เอกสารหรือข่าวสารอันเป็นความลับของ ปตท. รั่วไหล หรือตกไปถึงผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง
2.3. เคารพในสิทธิส่วนบุคคลของพนักงาน หลีกเลี่ยงการนำเอาข้อมูลหรือเรื่องราวของพนักงานอื่น ทั้งเรื่องที่เกี่ยวกับการปฏิบัติงาน และเรื่องส่วนตัวไปเปิดเผย หรือวิพากษ์วิจารณ์ในลักษณะที่จะก่อ ให้เกิดความเสียหายแก่พนักงาน หรือภาพพจน์โดยรวมของ ปตท.
2.4. ไม่กล่าวร้ายหรือกระทำการใดๆ อันจะนำไปสู่ความแตกแยก หรือความเสียหายภายใน ปตท. หรือ ต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องกับ ปตท.
2.5. รักษาและร่วมสร้างสรรค์ให้เกิดความสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในหมู่พนักงาน ช่วยเหลือ เกื้อกูลซึ่งกันและกันในทางที่ชอบ เพื่อประโยชน์ต่อ ปตท. โดยรวม
2.6. พึงปฏิบัติต่อผู้ร่วมงานด้วยความสุภาพ มีน้ำใจ มีมนุษย์สัมพันธ์อันดี ไม่ปิดบังข้อมูลที่จำเป็นในการปฏิบัติงานของผู้ร่วมงาน และปรับตนให้สามารถทำงานร่วมกับบุคคลอื่นได้ รวมทั้งให้เกียรติผู้อื่น โดยไม่นำผลงานของผู้อื่นมาแอบอ้างเป็นผลงานของตน
2.7. มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นคนดี คนเก่ง โดยการพัฒนาตนเองไปในทางที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและ ปตท.อยู่เสมอ
2.8. ศึกษาหาความรู้และประสบการณ์ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการปฏิบัติงาน
2.9. ยึดมั่นในคุณธรรม มีจริยธรรม ละเว้นจากอบายมุขทั้งปวง โดยไม่ประพฤติตนในทางที่อาจทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของตนเอง และ ปตท.
2.10. แจ้งผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น หรือคณะกรรมการตรวจสอบ หากพบเห็นการกระทำใด ๆ ที่ส่อว่าเป็นการทุจริต หรือประพฤติมิชอบภายใน ปตท.
2.11. ช่วยดำเนินการใดๆ ที่จะรักษาสภาพแวดล้อมและบรรยากาศในการทำงาน รวมทั้งการพัฒนาองค์กร ไปสู่ความเป็นเลิศ
2.12. หลีกเลี่ยงการให้ หรือรับสิ่งของการเลี้ยงรับรอง หรือประโยชน์ใดๆจากคู่ค้าหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจของปตท. เว้นแต่เพื่อประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจปกติ หรือในเทศกาล หรือประเพณีนิยมในมูลค่าที่เหมาะสม หากของขวัญที่ได้รับในอยู่รูปของเงิน หรือสิ่งของที่มีมูลค่าสูงให้รีบแจ้งผู้บังคับบัญชา ตามลำดับชั้นทราบ และส่งคืนโดยเร็ว

กิจกรรมทางด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล
ปตท.ถือว่าพนักงานเป็นปัจจัยสำคัญและมีคุณค่ายิ่งนำมาซึ่งความสำเร็จความก้าวหน้าและความเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนของปตท.ด้วยการคัดสรรคนดีสร้างคนเก่งและ ทำงานอย่างมืออาชีพโดยกำหนดแนวปฏิบัติดังต่อไปนี้
1. การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล จะต้องสอดคล้องและสนับสนุนกลยุทธ์และเป้าหมาย ทางธุรกิจของ ปตท.
2. จะจัดวางระบบและกระบวนการบริหารทรัพยากรบุคคลให้เทียบเคียงได้กับธุรกิจชั้นนำ โดยมีความชัดเจน โปร่งใส ยุติธรรม เป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งองค์กร
3. ปตท. จะคัดสรรและสร้างคนดี คนเก่ง ที่มีพฤติกรรมในการทำงานอย่างมืออาชีพ ซึ่ง ค.ฅน ในที่นี้จะมีการเรียนรู้เพื่อนำไปสู่สิ่งที่ดีตลอดเวลา “สังคมการเรียนรู้”
4. ผู้บังคับบัญชาทุกคนมีหน้าที่ในการบริหารทรัพยากรบุคคลภายในหน่วยงานของตนตามระบบ และแนวทางการบริหารทรัพยากรบุคคลของ ปตท.
5. พนักงานทุกคนมีหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติงานด้วยความสามารถ มีความรับผิดชอบ มุ่งมั่น ทุ่มเท ให้เกิดผลสำเร็จของงาน โดยยึดหลักจริยธรรมและวัฒนธรรมขององค์กร
6. การพัฒนาทรัพยากรบุคคลเป็นเรื่องขององค์กร ผู้บังคับบัญชา และพนักงานทุกคน โดย
• ทางด้าน (Career Planning & Development) ปตท. จะพัฒนาพนักงานให้มีความรู้ความสามารถ มีประสิทธิภาพในการทำงานในหน้าที่ ที่รับผิดชอบ และเติบโตในสายอาชีพของตน อย่างต่อเนื่อง
• ผู้บังคับบัญชามีหน้าที่วางแผนติดตาม ให้คำปรึกษา ประเมินผล และให้ข้อมูลป้อนกลับ
• พนักงานต้องเป็นผู้ที่ใฝ่รู้ โดยมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ
7. ความก้าวหน้าในอาชีพ ผลตอบแทนและแรงจูงใจต่างๆ ขึ้นอยู่กับคุณภาพ ผลสำเร็จของงาน ทัศนคติ และศักยภาพของพนักงาน
8. ปตท.จะบริหารค่าตอบแทนพนักงานให้เทียบเคียงกับธุรกิจปิโตรเลียมและธุรกิจชั้นนำที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน
9. ปตท. จะส่งเสริมให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตในการทำงาน มีความปลอดภัยและอาชีวอนามัยที่ดี
แนวปฏิบัติที่ดีเกี่ยวกับรายการทางการบัญชีและการเงิน
4.1. ความถูกต้องของการบันทึกรายการ
• การบันทึกรายการทางธุรกิจทุกอย่างของปตท.จะต้องถูกต้องครบถ้วนและสามารถตรวจ สอบได้โดยไม่มีข้อจำกัดหรือข้อยกเว้นในลักษณะใด
• การลงรายการบัญชีและการบันทึกทางธุรกิจจะต้องเป็นไปตามความเป็นจริง ไม่มีการบิดเบือนหรือสร้างรายการเท็จ ไม่ว่าจะด้วยวัตถุประสงค์ใดๆ ก็ตาม
• บุคลากรทุกระดับต้องดำเนินรายการทางธุรกิจให้สอดคล้องและเป็นไปตามระเบียบและข้อกำหนดต่างๆ ของ ปตท. รวมทั้งมีเอกสารหลักฐาน ประกอบการลงรายการทางธุรกิจที่ครบถ้วน และให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างเพียงพอ และทันเวลา เพื่อให้ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการบันทึก การจัดทำ และการประเมินรายงานทางการบัญชี และการเงิน สามารถบันทึกและจัดทำรายการทางการบัญชีและการเงินทุกประเภทของ ปตท. ลงในระบบบัญชีของ ปตท. โดยมีรายละเอียดที่ถูกต้องและครบถ้วน
4.2. รายงานทางการบัญชีและการเงิน
• พนักงานทุกคนต้องไม่กระทำการบิดเบือนข้อมูลหรือสร้างรายการเท็จ ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลรายการทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบัญชีและการเงิน หรือข้อมูลรายการทางด้าน ปฏิบัติการ
• พนักงานทุกคนควรตระหนักว่าความถูกต้องของรายงานทางการบัญชีและการเงิน เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของคณะกรรมการ ปตท. ผู้บริหาร และพนักงานที่มีหน้าที่ รับผิดชอบ
• พนักงานทุกคนมีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินการ จัดเตรียม และ/หรือให้ข้อมูล รายการทางธุรกิจ
4.3. การปฏิบัติตามกฎหมาย
• บุคลากรทุกระดับจะต้องปฏิบัติตามระเบียบ และข้อกำหนดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งในประเทศ และ/หรือในต่างประเทศ เพื่อให้การจัดทำบัญชีและบันทึกทางการเงินของ ปตท. เป็นไปอย่างถูกต้องและสมบูรณ์
• บุคลากรทุกระดับจะต้องยึดหลัก ความซื่อสัตย์ ปราศจากอคติ และความซื่อตรงในการ จัดเก็บบันทึกข้อมูล โดยความซื่อตรงดังกล่าวหมายรวมถึงการไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมที่ผิดกฎหมายหรือผิดจริยธรรมด้วย
5. แนวปฏิบัติที่ดีเกี่ยวกับการควบคุมภายใน
5.1. คณะกรรมการ ปตท. กำหนดนโยบาย และกำกับดูแลให้มีระบบการควบคุมภายในที่ดี มีการบริหารความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและมีการติดตามประเมินผลอย่างสม่ำเสมอ
5.2. คณะกรรมการตรวจสอบ
•สอบทานระบบการควบคุมภายใน และรายงานผลการตรวจสอบให้คณะกรรมการ ปตท. และ ผู้ถือหุ้นทราบ
•องค์ประกอบของระบบการควบคุมภายในที่สำคัญทั้ง 5 ประการ ดังนี้
1)มีสภาพแวดล้อมของการควบคุมที่ดี (Control Environment) เพื่อให้นักงานมีทัศนคติ ที่ดีต่อการควบคุมภายใน
2)มีกระบวนการประเมินความเสี่ยงที่เหมาะสม (Risk Assessment) เพื่อระเมินความเสี่ยงที่สำคัญในการดำเนินงานขององค์กรที่อาจมีผลกระทบต่อวัตถุประสงค์เป้าหมาย หรือผลสำเร็จของงาน
3)มีกิจกรรมการควบคุมที่ดี (Control Activities) ในทุกหน้าที่และทุกระดับอย่างเหมาะสม ตามระดับความเสี่ยงที่สามารถยอมรับได้
4)มีระบบสารสนเทศและการสื่อสารข้อมูลที่ดี (Information and Communications) อย่างเพียงพอ เชื่อถือได้ ทันเวลา และสื่อสารอย่างเหมาะสมทั้งภายใน และภายนอกองค์กร
5)มีระบบการติดตามและการประเมินผลที่ดี (Monitoring and Evaluation) เพื่อให้มั่นใจว่าระบบ การควบคุมภายใน มีความเหมาะสม มีการปฏิบัติจริง รวมทั้งได้รับการปรับปรุงแก้ไขและทันเวลา และสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
5.3. ผู้บริหาร
นำนโยบายที่กำหนดโดยคณะกรรมการปตท.ไปปฏิบัติให้สัมฤทธิ์ผล โดย
• ผู้บริหารระดับสูง จัดระบบควบคุมภายในของ ปตท.และปลูกฝังให้พนักงานมีวินัย มีทัศนคติที่ดีในเรื่องการควบคุมภายใน
• ผู้บริหารระดับกลาง จัดระบบการควบคุมภายในในงานที่รับผิดชอบ มีการประเมินผล ระบบฯ ปรับปรุงระบบฯ และมีการสอบทานและปฏิบัติจริงตามระบบที่วางไว้
5.4. พนักงานทุกระดับ ปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง มาตรการ และระบบการควบคุมภายในต่างๆ
5.5. สำนักตรวจสอบภายใน
• รับผิดชอบโดยตรงในเรื่องการประเมินผลการควบคุมภายใน และตรวจสอบการปฏิบัติ ตามระบบ
• นำผลไปปรับปรุงมาตรการควบคุมให้เหมาะสมกับสถานการณ์ สิ่งแวดล้อม และปัจจัยความเสี่ยงที่เปลี่ยนแปลงไป


6. แนวปฏิบัติที่ดีเกี่ยวกับรายการผลประโยชน์ที่ขัดกัน
6.1. คณะกรรมการ ปตท.และผู้บริหาร
ต้องพิจารณาความขัดแย้งของผลประโยชน์เกี่ยวกับรายการที่เกี่ยวโยงกันระหว่าง ปตท.กับบริษัทย่อยบริษัทร่วมอย่างรอบคอบ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต อย่างมีเหตุผลและเป็นอิสระ ภายใต้กรอบจริยธรรมที่ดีโดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของ ปตท. รายการที่เกี่ยวโยงกันแบ่งเป็น 6 ประเภท คือ
1) รายการค้าที่เป็นธุรกิจปกติ คือ รายการธุรกรรมการค้าเกี่ยวกับสินทรัพย์/บริการอันเป็นธุรกิจปกติของ ปตท. ที่ทำเป็นประจำ และเป็นไปตามเงื่อนไขการค้าทั่วไป เช่น การซื้อขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม การซื้อวัตถุดิบ การให้บริการ เป็นต้น
2) รายการสนับสนุนธุรกิจปกติ คือ รายการธุรกรรมการค้าเกี่ยวกับสินทรัพย์/บริการ เพื่อสนับสนุนการประกอบธุรกิจปกติของบริษัท ให้ดำเนินการไปได้อย่างราบรื่น ได้แก่ การว่าจ้างขนส่งสินค้า การว่าจ้างทำโฆษณา สัญญาความช่วยเหลือทาง เทคนิค หรือจ้างบริหารงาน เป็นต้น
3) รายการเช่า/ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ระยะสั้น คือ รายการเช่าหรือให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่สามารถแสดงได้ว่าเป็นไปตามเงื่อนไขการค้าทั่วไป และมีอายุสัญญาไม่เกินกว่า 3 ปี
4) รายการเกี่ยวกับสินทรัพย์หรือบริการอื่น
5) รายการความช่วยเหลือทางการเงินกับบริษัทย่อย บริษัทร่วม เช่น เงินทุนหมุนเวียนในรูปเงินกู้ การให้กู้ยืมค้ำประกัน เป็นต้น ซึ่ง ปตท.จะต้องได้รับผลตอบแทน เช่น ดอกเบี้ยตามอัตราตลาด
6) รายการที่เกี่ยวโยงกันอื่น นอกจากรายการตาม 1 ถึง 5
6.2. คณะกรรมการตรวจสอบ
มีหน้าที่สอบทานรายการที่เกี่ยวโยงกัน หรือรายการระหว่างกันที่มีนัยสำคัญระหว่าง ปตท. กับบริษัทย่อย บริษัทร่วม และพิจารณาการเปิดเผยสารสนเทศของ ปตท. ในกรณีที่เกิดรายการที่เกี่ยวโยงกัน หรือรายการที่อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ให้มีความถูกต้องและครบถ้วน
6.3. บุคคลากรทุกระดับ
จะต้องจัดทำรายงานการเปิดเผยรายการที่สงสัยว่าจะเป็นผลประโยชน์ที่ขัดกันกับผลประโยชน์ของปตท. ตามแบบฟอร์มที่กำหนดให้ในภาคผนวกโดยแจ้งต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น และนำส่งสำนักกรรมการผู้จัดการใหญ่

7. แนวปฏิบัติที่ดีเกี่ยวกับการรับ การให้ของขวัญ ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด
7.1. บุคลากรของ ปตท. รับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากบุคคลใดๆ ได้ดังนี้
•ทรัพย์สินหรือประโยชน์อันควรได้ตามกฎหมายหรือกฎข้อบังคับที่ออกโดย อาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
• ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยา ได้แก่
- รับจากญาติที่ให้โดยเสน่หาตามฐานานุรูป
- รับจากบุคคลอื่นมีมูลค่าไม่เกินสามพันบาท
- รับจากการให้ในลักษณะให้กับบุคคลทั่วไป
7.2.ปตท.ได้กำหนดแนวทางปฏิบัติเพิ่มเติมในเรื่องของขวัญ ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ดังนี้
•ห้ามบุคลากรทุกระดับ และ/หรือครอบครัว เรียกร้องหรือรับของขวัญ ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากผู้รับเหมา ผู้รับเหมาช่วง ลูกค้า ผู้ค้า/ผู้ขาย ผู้ร่วมทุน หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจ ของ ปตท.ไม่ว่าในกรณีใด ซึ่งอาจมีผลต่อการตัดสินใจในการปฏิบัติงานด้วยความลำเอียง หรือลำบากใจ หรือเป็นผลประโยชน์ที่ขัดกันได้
• ปตท.จะใช้ดุลยพินิจในการให้ของขวัญ ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่บุคคลอื่นในลักษณะที่ไม่เกินสมควร หรือฟุ่มเฟือย หรือผิดธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม หรือกฎหมายของประเทศไทย หรือของท้องถิ่นที่ ปตท. ไปลงทุนด้วย
• ปตท.จะได้แจ้งเตือนให้มีการรายงานเกี่ยวกับการรับของขวัญ ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดอย่างสม่ำเสมอ และจะแจ้งให้ผู้รับเหมา ผู้รับเหมาช่วง ลูกค้า ผู้ค้า/ผู้ขาย ผู้ร่วมทุนหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจของ ปตท. ทราบเกี่ยวกับนโยบายนี้ด้วย
บุคลากรทุกระดับของ ปตท. เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่า ด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ดังนั้น การปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าวข้างต้น จะต้องไม่ขัดกับประกาศ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยธรรมจรรยาของเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ.2543 ซึ่งออกตามมาตรา 103 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 รายละเอียดในภาคผนวก

8. แนวปฏิบัติที่ดีเกี่ยวกับการรักษาความลับ
8.1. การรักษาความลับของ ปตท.
•คณะกรรมการ ปตท. ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง และผู้รับจ้างของ ปตท. จะต้องรักษา ความลับของข้อมูลและเอกสารที่ไม่สามารถเปิดเผย และ/หรือ เป็นความลับทางการค้า สูตร การประดิษฐ์คิดค้นต่างๆ ซึ่งถือเป็นสิทธิของ ปตท.
•ผู้ที่ดำรงตำแหน่งกรรมการ ปตท. ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง หรือพนักงานของผู้รับจ้างของ ปตท. จะต้องไม่เปิดเผยข้อมูลและเอกสารที่เป็นความลับ หรือความลับทางการค้านั้นๆ อีกเป็นเวลา สองปี เมื่อพ้นจากหน้าที่ไปแล้ว
•ผู้บริหารและพนักงาน ปตท.ต้องทราบถึงขั้นตอน วิธีการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล และปฏิบัติตาม เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลอันเป็นความลับถูกเปิดเผยโดยไม่เจตนา
8.2. การกำหนดชั้นความลับของข้อมูล
•ข้อมูลลับทางการค้าของ ปตท.ต้องได้รับการปกปิดมิให้รั่วไหล โดยกำหนดตามความสำคัญของข้อมูล เช่น ข้อมูลที่เปิดเผยได้ ข้อมูลปกปิด ข้อมูลลับ ข้อมูลลับมาก เป็นต้น
•การใช้ข้อมูลภายในร่วมกันต้องอยู่ในกรอบของหน้าที่และความรับผิดชอบที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น
8.3. การให้ข้อมูลข่าวสารแก่บุคคลภายนอก
•กรรมการผู้จัดการใหญ่จะเป็นผู้ให้ความเห็นชอบข้อมูลที่ออกสู่สาธารณชน
•ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ร่วมทุนอื่นๆ จะต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ร่วมทุนด้วย
•หน่วยงานที่กำหนดให้เป็นผู้ให้ข้อมูลแก่สาธารณชน ได้แก่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สำนักกรรมการผู้จัดการใหญ่ และส่วนตลาดทุนและผู้ลงทุนสัมพันธ์ โดยให้หน่วยงาน เจ้าของข้อมูลเป็นผู้จัดทำรายละเอียดให้
•ปตท. ได้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ. 2540 โดยกำหนดให้ผู้ที่ต้องการข้อมูลข่าวสารจาก ปตท. ติดต่อขอรับข้อมูลฯ ได้ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์
8.4. การแสดงความเห็นแก่บุคคลภายนอก
•ต้องไม่เปิดเผยหรือแสดงความเห็นแก่บุคคลอื่นใดภายนอก ปตท.
•ขอให้ท่านถามตนเองก่อนว่าท่านมีหน้าที่ในการตอบคำถามเหล่านั้นหรือไม่ หากไม่มี ขอให้ปฏิเสธการแสดงความเห็นต่างๆ ด้วยความสุภาพ และแนะนำให้สอบถามจาก หน่วยงานที่กำหนดข้างต้นโดยตรงต่อไป

9. แนวปฏิบัติที่ดีเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์
9.1. คณะกรรมการ ปตท. ผู้บริหารระดับรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ขึ้นไป ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่การ เงินองค์กร และผู้จัดการฝ่ายบัญชี สำนักงานใหญ่มีหน้าที่ต้องรายงานการถือหลักทรัพย์ของตนให้เป็นไปตามกฎระเบียบของ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และคณะกรรมการกำกับ หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
9.2. ปตท.บริษัทย่อยและบริษัทร่วมของปตท. ที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ต้องปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลภายใน โดยดำเนินการให้มีความเสมอภาคและยุติธรรม ต่อผู้ถือหุ้นทุกรายอย่างเท่าเทียมกันและเพื่อเป็นการป้องกันการ กระทำผิดกฎหมายของบุคลากรทุกระดับของปตท. และครอบครัวทุกคนที่ได้รับทราบ หรืออาจได้รับทราบข้อมูลภายในที่ยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณชนปตท. จึงห้ามบุคคลดังกล่าวทำการซื้อขายหุ้น หรือชักชวนให้บุคคลอื่นซื้อ หรือขาย หรือเสนอซื้อ หรือเสนอขายหุ้น ปตท. บริษัทย่อย และ/หรือบริษัทร่วมของ ปตท. ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ว่าจะด้วยตนเอง หรือผ่านนายหน้า ในขณะที่ยังครอบครองข้อมูลที่ยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณชนอยู่โดยปตท. และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถือว่าเป็นการซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อเก็งกำไร หรือสร้างความได้เปรียบให้กับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
9.3. ปตท. ได้จัดระบบรักษาความปลอดภัยในที่ทำงาน เพื่อป้องกันแฟ้มข้อมูลและเอกสารลับ และได้ดำเนินการจำกัดการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ โดยให้รับรู้เฉพาะแก่ผู้เกี่ยวข้อง และที่จำเป็นเท่านั้น จึงถือเป็นหน้าที่ของเจ้าของข้อมูล หรือผู้ครอบครองข้อมูล ที่ยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณชนจะต้องกำชับผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนการรักษาความปลอดภัยโดยเคร่งครัด ทั้งนี้ ผู้ฝ่าฝืนการใช้ข้อมูลภายในจะต้องถูกลงโทษทางวินัย และ/หรือ กฎหมายแล้วแต่กรณี

10. แนวปฏิบัติที่ดีเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
10.1. ปตท. กำหนดให้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยส่งเสริมการ ดำเนินธุรกิจและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ฉะนั้นจึงเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของพนักงาน ปตท. ทุกคนที่จะต้องใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารภายใต้ข้อบังคับของกฎหมาย คำสั่งปตท. และตามมาตรฐานที่ ปตท.กำหนด
10.2. ปตท. ได้จัดให้มีการบริหารความปลอดภัยของระบบสารสนเทศ ซึ่งหมายถึง ระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์ ตามมาตรฐานสากล
10.3. พนักงาน ปตท. ทุกคนมีหน้าที่ และข้อปฏิบัติดังต่อไปนี้
•มีหน้าที่รับผิดชอบในการป้องกันและดูแลให้ระบบสารสนเทศของปตท.ที่อยู่ในความครอบครองหรือหน้าที่รับผิดชอบของตนไม่ให้ถูกบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าถึงโดยมิชอบ และไม่เปิดเผยข้อมูลที่มีความสำคัญทางธุรกิจต่อผู้ไม่เกี่ยวข้อง
•มีวินัยในการใช้ระบบสารสนเทศและอุปกรณ์สื่อสารของปตท.ไม่ให้ส่งผลกระทบในแง่ลบต่อปตท.และผู้อื่นอาทิเช่นใช้เป็นเครื่องมือในการเข้าถึงระบบสารเทศโดยมิชอบ สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงและทรัพย์สิน รบกวนหรือก่อความรำคาญต่อการทำงานของระบบสารสนเทศ ดักข้อมูล ลักลอบถอดรหัสผ่าน ปลอมแปลง ข้อมูลคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ภาพ ข้อความ หรือเสียงที่ไม่เหมาะสม รวมทั้งไม่ใช้ในเชิงธุรกิจส่วนตัวหรือ การกระทำที่ผิดกฎหมาย
•ต้องไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟแวร์หรือทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่น
•ต้องเข้ารหัสข้อมูลในกรณีที่ต้องการส่งข้อมูลที่สำคัญต่อธุรกิจทางธุรกิจผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต รวม ทั้งไม่แลกเปลี่ยนข้อมูลที่สำคัญต่อธุรกิจทางธุรกิจกับ Web site ที่ไม่มีการป้องกันความปลอดภัยของข้อมูล
•กรณีที่พนักงานขออนุญาตให้ผู้ปฏิบัติงานสมทบพนักงานของผู้รับจ้างปตท.ใช้ระบบสารสนเทศปตท.นั้พนักงานผู้ขอต้องควบคุมการใช้งานของผู้ปฏิบัติงานสมทบ พนักงานของผู้รับจ้าง ปตท. และต้องรับผิดชอบ ต่อความเสียหายที่เกิดกับ ปตท.
10.4. ปตท. จะเข้าตรวจสอบ ค้นหา ติดตาม สอบสวน และควบคุมการใช้ระบบสารสนเทศของพนักงาน หากพบข้อ สงสัยว่าพนักงานใช้งานในทางที่ไม่เหมาะสม หรือมีเหตุอันควร เพื่อป้องกันความปลอดภัยของระบบสารสนเทศ ปตท.
10.5. หาก ปตท. พบว่าพนักงานมีการละเมิด และผลการสอบสวนอย่างเป็นธรรม ปรากฏว่าเป็นจริง จะได้รับการ พิจารณาลงโทษทางวินัย และ/หรือกฎหมาย ตามความเหมาะสมแล้วแต่กรณี

11. แนวปฏิบัติที่ดีด้านคุณภาพ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม
11.1. ผู้บริหารและพนักงานทุกคนต้องดำเนินงานโดยมีระบบบริหารคุณภาพ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อมเป็นส่วนหนึ่งของงาน เพื่อช่วยในการเสริมสร้างประสิทธิภาพประสิทธิผล และเกิด คุณค่าสูงสุดแก่งาน
11.2. ผู้บริหาร พนักงาน และพนักงานของผู้รับจ้าง จะยึดถือปฏิบัติงานให้เป็นไปตามกฎหมาย นโยบาย ข้อกำหนดและมาตรฐานทางด้านคุณภาพ ความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
11.3. ปตท.จะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อควบคุมและป้องกันความสูญเสียในรูปแบบต่างๆอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุอัคคีภัยการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยจากการทำงาน ทรัพย์สินสูญหายหรือเสียหายการละเมิด ระบบรักษาความปลอดภัย การปฏิบัติงานไม่ถูกวิธี และความผิดพลาดต่างๆ ที่เกิดขึ้น ตลอดจนรักษาสภาพ แวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยต่อพนักงาน และพนักงานของผู้รับจ้าง ทั้งนี้ ถือเป็นหน้าที่รับผิดชอบของ ผู้บริหารและพนักงานในการรายงานอุบัติเหตุ อุบัติการณ์โดยปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนดไว้
11.4. ปตท. จะจัดให้มีแผนควบคุมและป้องกันเหตุฉุกเฉินในทุกพื้นที่ปฏิบัติการ มีแผนจัดการเหตุฉุกเฉิน และสภาวะวิกฤตขององค์กร เพื่อเตรียมพร้อมต่อการจัดการเหตุฉุกเฉินต่างๆที่อาจเกิดขึ้น เช่น เพลิงไหม้ การหกล้นหรือรั่วไหลของน้ำมัน ก๊าซ สารเคมี หรือของเสีย และมีการเตรียมพร้อมต่อเหตุ วิกฤตอื่นๆ ที่อาจทำให้การดำเนินธุรกิจหยุดชะงัก เสื่อมเสียชื่อเสียงและภาพลักษณ์ขององค์กร
11.5. ปตท. จะจัดให้มีการประชาสัมพันธ์และสื่อความเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและเผยแพร่ข้อมูล แก่พนักงาน พนักงานของผู้รับจ้าง ตลอดจนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทราบและเข้าใจ ในนโยบาย กฎระเบียบ ขั้นตอนวิธีปฏิบัติและข้อควรระวังต่างๆ ทางด้านคุณภาพ ความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนนำไปยึดถือปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง โดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย ต่อสุขภาพ ทรัพย์สินและสิ่งแวดล้อม
11.6. ปตท. มุ่งส่งเสริมและปลูกฝังจิตสำนึกทางด้านคุณภาพ ความปลอดภัย อาชีวอนามัยและ สิ่งแวดล้อม ให้เป็นวิถีดำเนินชีวิตประจำวันของพนักงาน
11.7. ปตท.มุ่งมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อสังคมในเรื่องคุณภาพความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังและต่อเนื่องในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องตลอดจนส่งเสริมกิจกรรมทางสังคมในการรักษาสิ่งแวดล้อมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนใน
ชุมชนตามหลักการพัฒนาอย่าง

12. แนวปฏิบัติที่ดีเกี่ยวกับการจัดหาพัสดุ
12.1. จัดหาพัสดุให้มีผลดีต่อ ปตท.มากที่สุด โดยควรกำหนดว่าต้องได้รับพัสดุตรงตามความต้องการ ทั้งคุณภาพ ราคา จำนวน เวลา การให้บริการ ความรวดเร็ว และคำนึงถึงนโยบายด้านคุณภาพ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อมของ ปตท.ด้วย
12.2. พนักงานผู้ดำเนินการจัดหา จะต้องมีการวางแผนจัดหาพัสดุล่วงหน้าที่ดี เพื่อหลีกเลี่ยงการจัดหา พัสดุอย่างเร่งด่วนโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
12.3. ปตท.จะไม่เอาเปรียบผู้ค้า โดยจะต้องคำนึงถึงประโยชน์และความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในด้าน ชื่อเสียงและภาพพจน์ของ ปตท.ต่อสายตาของบุคคลภายนอกด้วย
12.4. พนักงานจะต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ชัดเจน ครบถ้วน แก่ผู้ค้าด้วยวิธีการที่เปิดเผย และให้โอกาส แก่ผู้ค้าอย่างเท่าเทียมกัน
12.5. พนักงานควรรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะใด ๆ ที่ผู้ค้าร้องเรียนหรือแนะนำเพื่อปรับปรุง แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในการปฏิบัติงาน
12.6. พนักงานต้องรักษาข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับจากผู้เสนอราคา หรือผู้เข้าร่วมประกวดราคาแต่ละราย ไว้เป็นความลับ ไม่เปิดเผยให้รายอื่นทราบ
12.7. การเชิญผู้ค้าเพื่อเสนอราคา จะต้องให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรมกับผู้ค้าทุกราย
12.8. เจรจาต่อรองบนพื้นฐานของความสัมพันธ์เชิงธุรกิจ เป็นธรรมทั้งสองฝ่าย เปิดเผยและมีหลักฐาน
12.9. รักษาความสัมพันธ์กับผู้ค้า ในเชิงธุรกิจด้วยความเสมอภาค ไม่เรียกร้อง รับทรัพย์สิน หรือผล ประโยชน์อื่นใดทั้งโดยตรงและโดยอ้อมจากผู้ค้า
12.10. ผู้บริหารตามอำนาจการจัดหา ต้องใช้ดุลพินิจในการให้คำปรึกษา คำแนะนำ และรับฟัง ความคิดเห็นของผู้ปฏิบัติงาน
12.11. ผู้บริหารตามอำนาจการจัดหาจะควบคุม ตรวจสอบ ดูแล ให้มีการปฏิบัติตามจรรยาบรรณ อย่างเคร่งครัด หากพบว่ามีการปฏิบัติผิดจรรยาบรรณ ต้องดำเนินการสอบสวนและพิจารณาโทษ ทางวินัยตามขั้นตอน
12.12. สนับสนุนให้มีการจัดหาพัสดุและบริการจากผู้ประกอบการที่เป็นคนไทย หรือบริษัทในเครือบริษัทย่อย และบริษัทร่วมของ ปตท.
12.13. จัดหาพัสดุอย่างมีระบบถูกต้องตามหลักวิชาการโดยมีการควบคุมที่รัดกุมและปรับเปลี่ยนวิธีการให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจการค้าตลอดเวลา
หลักการและเหตุผล
ด้วยเจตนารมณ์ที่จะเป็นองค์กรชั้นนำ ที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีคุณธรรม โปร่งใส และตรวจสอบได้ ปตท.จึงจัดทำหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีขึ้นเพื่อเป็นรูปแบบของการดำเนินธุรกิจของคณะกรรมการผู้บริหารและพนักงานโดย
ให้ยึดถือหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีในการดำเนินธุรกิจและให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศที่เข้าไปลงทุนตลอดจนการปฏิบัติที่สอดคล้องกับขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่นนั้นๆ
ความสำคัญของการกำกับดูแลกิจการที่ดี
1.2.1. เสริมสร้างระบบบริหารจัดการที่ดี ที่โปร่งใส และมีมาตรฐานชัดเจน เป็นสากล ซึ่งจะช่วยให้ ปตท.มีศักยภาพในการแข่งขัน ป้องกันและขจัดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น
1.2.2. สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุนทั้งภายในและภายนอกประเทศ และมีส่วนในการเพิ่มมูลค่าหุ้น ปตท.
1.2.3. เป็นเครื่องมือการวัดผลการดำเนินงานของ ปตท. และตรวจสอบการทำงานต่างๆ เพื่อการปรับปรุง แก้ไขการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
1.2.4. สร้างกรอบความรับผิดชอบของคณะกรรมการปตท.และผู้บริหารต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายรวมทั้งเป็นการสร้างพันธะผูกพันเพื่อให้ฝ่ายบริหารใช้อำนาจภายในขอบเขตที่กำหนด

หลักปฏิบัติเกี่ยวกับคู่มือการกำกับดูแลกิจการที่ดีของ ปตท.
1.3.1. หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี รวมถึงจรรยาบรรณและแนวปฏิบัติที่ดีต่างๆ ถือเป็นวินัยอย่างหนึ่ง ซึ่งบุคลากรทุกระดับต้องทำความเข้าใจ ยึดมั่น และปฏิบัติให้ถูกต้อง
1.3.2. หากพบว่ามีการละเมิดต่อหลักการนี้ และผลการสอบสวนอย่างเป็นธรรม ปรากฏว่าเป็นจริง ปตท.จะมีการพิจารณาลงโทษทางวินัย และ/หรือทางกฎหมายตามความเหมาะสม
1.3.3. ปตท. คาดหมายให้บุคลากรทุกคน รายงานโดยสุจริตถึงการปฏิบัติที่ขัด หรือสงสัยว่าจะขัดต่อหลักการต่างๆ ต่อผู้บังคับบัญชา หรืออาจขอคำปรึกษาจากสำนักกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักตรวจสอบภายใน หรือฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล โดย ปตท. จะถือเป็นข้อมูลความลับ ทั้งนี้ ให้ถือเป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาในการสอดส่องดูแลและให้คำแนะนำ ผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อให้ปฏิบัติงานตามหลักการและจรรยาบรรณที่ได้กำหนดไว้
1.3.4. หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีของปตท.ควรได้รับการปรับปรุงให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นทุกปีในกรณีที่มีข้อสงสัยในการปฏิบัติตามหลักปฏิบัติที่ดีหรือจรรยาบรรณใดๆในคู่มือฉบับนี้ พนักงานสามารถใช้ดุลยพินิจของตนเองในเบื้องต้น โดยการสอบถามตัวเองก่อนว่าสิ่งที่จะทำนั้น
: เป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่
: เป็นที่ยอมรับและสามารถเปิดเผยต่อสังคมหรือไม่
: เป็นการทำให้เกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียงของ ปตท.หรือไม่ หรือสอบถามโดยตรงไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบในเรื่องนั้นๆ หรือที่สำนักกรรมการผู้จัดการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น